การระบาดของโควิด-19 ทำให้ค่าครองชีพในหลายเมืองใหญ่ของโลกลดลง
ฮ่องกง เมืองที่ติดอันดับค่าครองชีพแพงที่สุดของโลก
การสำรวจค่าครองชีพประจำปีล่าสุดพบว่า เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุด 3 อันดับแรกของโลกในปัจจุบันคือ ฮ่องกง ,ซูริก (สวิส) และ ปารีส (ฝรั่งเศส) ขณะที่สิงคโปร์และโอซากาของญี่ปุ่น ซึ่งครองอันดับหนึ่งเท่ากับฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ตกอันดับไป
การสำรวจประจำปีของ อีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (Economist Intelligence Unit—EIU) ซึ่งเป็นหน่วยวิเคราะห์ข้อมูลทางเศรษฐกิจของนิตยสาร ดิ อีโคโนมิสต์ ระบุว่า ค่าครองชีพในสิงคโปร์ต่ำลง เนื่องจากชาวต่างชาติย้ายออกไปจำนวนมาก หลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่วนกรุงเทพมหานคร ก็มีอันดับลดลง 20 อันดับเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดอยู่ที่อันดับ 46 ของโลก
แต่เมืองหลายแห่งของจีนมีอันดับสูงขึ้น เพราะความตึงเครียดอันมาจากสงครามด้านเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น
เมืองหลายแห่งในทวีปอเมริกา แอฟริกา และยุโรปตะวันออก มีค่าครองชีพลดต่ำลงตั้งแต่ปีที่แล้ว ขณะที่เมืองในยุโรปตะวันตกมีค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเมืองในยุโรปตะวันตกติดอยู่ใน 10 อันดับแรกของเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก 4 เมือง โดย ซูริก และปารีส มีอันดับค่าครองชีพสูงสุดเท่ากัน ส่วนเจนีวา และโคเปนเฮเกน อยู่ที่อันดับ 7 และ 9 ตามลำดับ
ที่เป็นเช่นนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสกุลเงินยุโรปค่อนข้างมีความแข็งแกร่งในดัชนีที่มีการเปรียบเทียบกับค่าครองชีพในนครนิวยอร์ก
เมืองที่มีค่าครองชีพเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือกรุงเตหะรานของอิหร่าน ซึ่งเพิ่มขึ้น 27 อันดับ สืบเนื่องมาจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณสินค้าในประเทศ
รายงานของ EIU เป็นการสำรวจชาวต่างชาติที่ทำงานในต่างประเทศ โดยใช้ข้อมูลที่บริษัทข้ามชาติหลายแห่งใช้ในการช่วยคำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานและการให้ค่าตอบแทนแก่ผู้ที่ถูกส่งไปทำงานในต่างประเทศ
ที่มา BBC Thai
บทความที่เกี่ยวข้อง
-
การระบาดของโควิด-19 ทำให้ค่าครองชีพในหลายเมืองใหญ่ของโลกลดลง
-
สิงคโปร์ ฮ่องกง ปารีส ครองอันดับ 1 ร่วม เมืองค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก
-
ฮ่องกง เมืองที่ค่าครองชีพ แพงติดอันดับโลก
-
ประเทศไหนค่าแรงต่ำที่สุดในอาเซียน
-
สิงคโปร์แชมป์เมืองค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกปีที่แล้ว
-
กรุงปักกิ่งเป็นเมืองค่าครองชีพแพงอันดับสองของชาวต่างชาติในเอเชีย